Yaoi
คืออะไร?
Yaoi ยะโอะอิ เป็นคำศัพท์ที่มีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่น
ใช้ในวงการนิยายและการ์ตูน เริ่มแรกเดิมทีคำนี้ หมายถึง
ประเภทหนึ่งของงานโดจินชิซึ่งเป็นผลงานล้อเลียนมังงะหรืออะนิเมะที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้น
แต่ปัจจุบันความหมายได้เปลี่ยนไป กลายเป็นลักษณะความสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศเชิงอีโรติกหรือโรแมนติกระหว่างชายกับชาย
ซึ่งอยู่ในรูปแบบของมังงะ อะนิเมะ เกม นิยาย และ โดจินชิ
ต่อมาในญี่ปุ่นได้เกิดคำศัพท์ใหม่แทนที่ยะโอะอิ
คือคำว่า บอยส์เลิฟ (Boy's Love) แม้ชื่อจะบอกว่าเป็นความรักของเด็กหนุ่ม
แต่ในความเป็นจริงแล้วสามารถใช้ได้กว้างตั้งแต่เรื่องราวระหว่างวัยรุ่นไปจนถึงคนสูงวัย
แต่มีศัพท์เฉพาะ คือ ความสัมพันธ์กับชายวัยเยาว์ เรียก โชะตะคอน
ถ้าเป็นชายสูงอายุเรียก โอจิคอน ส่วนในต่างประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา ไทย
ยังคงนิยมใช้คำว่า ยะโอะอิ
คำว่า yaoi
กำเนิดครั้งแรงช่วงปลายยุค
70 โดยซาคาตะ ยาซุโกะและฮัตสุ รินโกะ
ที่ต้องการล้อเลียนโครงสร้างของงานเขียนโคลงจีนยุคเก่าซึ่งต้องประกอบด้วย ki
(introduction บทนำ),
syo (development ดำเนินเรื่อง),
ten (transition จุดผกผัน), และ ketsu
(conclusion บทสรุป)
โดยสร้างงานที่
Yamanashi (no climax-ไม่มีไคลแมกซ์)
Ochinashi (no point-ไม่มีประเด็น)
Iminashi (no meaning-ไม่มีความหมาย)
กลายมาเป็นงานโดจินชิที่ชื่อ
Loveri
ต่อมาในยุค 80
คำว่า yaoi ได้หมายความถึงงานการ์ตูนล้อเลียนที่มีผู้ชายสองคนเป็นตัวเอกและเน้นความสัมพันธ์ทางเพศเป็นเนื้อหาหลัก
ส่วน shonenai หมายถึงการ์ตูนที่มีผู้ชายสองคนเช่นกัน
แต่เน้นความรักโรแมนติกและน่ารักอ่อนโยนกว่า ทั้ง yaoi และ shonenai ไม่ใช่การ์ตูนที่กล่าวถึงความรักของ
เกย์ เลย แต่เป็นรูปแบบหนึ่งของความรักที่ "เหนือ"
กว่าความรักระหว่างคนต่างเพศทั่วไป
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม
ต้นกำเนิดของความสัมพันธ์แบบชายกับชายในการ์ตูนไม่ได้เกิดในดงโดจินชิเป็นที่แรก
แต่กลับเกิดในงานการ์ตูนที่มีพิมพ์ขายแบบเป็นล่ำเป็นสัน เรื่องนั้นคือ Kaza
to Ki no Uta หรือ A
Poem of Wind and Trees งานเขียนของทาเคมิยะ เคย์โกะ ซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูนผู้หญิงในปี
1976 เรื่องนี้เป็นเรื่องของกิลเบิร์ต คอคโต
เด็กหนุ่มรูปงามในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งที่มีอันต้องร่วมหอลงเตียงกับเพื่อนหนุ่มรูมเมท
ต่อมาในปี 1978
นิตยสาร Comic June (อ่านว่าจู-เน่)
ได้วางแผงช่วงเวลาเดียวกับที่กลุ่มของซาคาตะคิดค้นคำว่า yaoi
ถือเป็นนิตยสารเล่มแรกที่มีแต่เรื่องชายกับชาย
ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น